กงสุลกิตติมศักดิ์ฮังการี ณ จังหวัดภูเก็ต รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์สูงสุดจากฮังการี ยกย่องบทบาทส่งเสริมสัมพันธ์ไทย-ฮังการี พร้อมผลักดันกีฬาเทคบอลสู่เวทีโลก

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 ณ ชั้น 19 โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ จังหวัดภูเก็ต สถานเอกอัครราชทูตฮังการีประจำประเทศไทย ได้จัดพิธีมอบ เหรียญอัศวินกางเขน (Knight’s Cross) ซึ่งเป็นหนึ่งในระดับของ เครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งเกียรติยศของประเทศฮังการี (Hungarian Order of Merit) ให้แก่ นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช กงสุลกิตติมศักดิ์ฮังการี ณ จังหวัดภูเก็ต และประธานกรรมการบริหารบริษัท เจ.ดี. พูลส์ จำกัด โดยมี ฯพณฯ ดร.ชานดอร์ ชีโปช (H.E. Dr. Sandor Sipos) เอกอัครราชทูตฮังการีประจำประเทศไทย เป็นผู้แทนมอบเหรียญดังกล่าว ในนามของ ฯพณฯ นายทามาช์ ชูโยก (H.E. Mr. Tamás Sulyok) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฮังการี
นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวแสดงความยินดีจาก นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตนอกจากนั้นตัวแทนจากภาคส่วนของจังหวัดภูเก็ต นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต และธรรมวรรธ วงศ์เจริญยศ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดภูเก็ต ร่วมมอบโล่เกียรติยศแด่เอกอัครราชทูตฮังการี เพื่อเชิดชูบทบาทในการสานความสัมพันธ์ระหว่างภูเก็ตและฮังการี โดยเฉพาะผ่านโครงการรูปปั้น Ferenc Puskás นักฟุตบอลระดับตำนานของฮังการี ที่เตรียมจัดแสดง ณ สวนสาธารณะสะพานหิน โดย เอกอัครราชทูตฯ ได้แสดงความยินดีต่อ นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช กงสุลกิตติมศักดิ์ฮังการี หรือ “อัศวินธนูศักดิ์” พร้อมชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่อย่างทุ่มเทของกงสุลกิตติมศักดิ์ ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ที่ไม่เพียงแต่ส่งเสริมความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างสองประเทศ หากยังมีบทบาทสำคัญในการผลักดัน “กีฬาเทคบอล (Teqball) กีฬาเชื้อสายฮังการี ให้เป็นที่รู้จักในภูเก็ตและประเทศไทยอย่างกว้างขวาง
ทั้งนี้ เครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งเกียรติยศของประเทศฮังการี (Hungarian Order of Merit) ถือเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ลำดับที่ 4 ที่มีเกียรติสูงสุดของประเทศ โดยก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1922 ในยุคราชอาณาจักรฮังการี เครื่องราชฯ นี้แบ่งเป็นสายพลเรือนและทหาร โดยระดับ “เหรียญอัศวิน” เป็นลำดับแรกของสายพลเรือน บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างอบอุ่น ยตัวแทนจากภาคส่วนต่าง ๆ ของจังหวัด ร่วมแสดงความยินดีกับค่ำคืนอันทรงเกียรตินี้ จากนั้นในช่วงค่ำ ผู้ร่วมงานยังได้เพลิดเพลินกับการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่น อาทิ มโนราห์ และโชว์บาเทนเดอร์ โดยนักศึกษาจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต พร้อมรับประทานอาหารในบรรยากาศ Fine Dining เคล้าเสียงดนตรี ปิดท้ายค่ำคืนแห่งเกียรติยศด้วยมิตรภาพอันแน่นแฟ้นระหว่างสองชาติ



